เราตรวจพบว่าบราวเซอร์ของคุณรองรับภาษาอื่นที่ไม่ใช่ภาษาที่เรียกใช้ หน้านี้มีให้บริการในภาษาของคุณด้วย! คุณต้องการเปลี่ยนไปใช้หน้านี้ในภาษาของคุณหรือไม่?
Schnorr Thailand ได้จดทะเบียนอย่างเป็นทางการในทะเบียนการค้าเมื่อวันที่ 23 เมษายน 2024 เป็นบริษัทย่อยในต่างประเทศลำดับที่ 9 และเป็นบริษัทลำดับที่ 10 ในกลุ่มโฮลดิ้ง!
กลุ่มบริษัท SCHNORR® ยังคงแผ่ขยายต่อไป ในเดือนมิถุนายนปี 2023 มีการก่อตั้งบริษัทในเครืออีกแห่งหนึ่งได้สำเร็จในออสเตรเลีย ปัจจุบัน กลุ่มบริษัท SCHNORR® มีบริษัทในเครือแปดแห่งและตัวแทนต่างชาติมากกว่า 25 ราย
ได้มีการเปลี่ยนผู้บริหารระดับสูงในฤดูร้อนปี 2021 Dr. Alexander Karl เป็นซีอีโอคนใหม่ตั้งแต่วันที่ 1 สิงหาคม
ในปี 2016 ห้องการผลิตใหม่ได้เริ่มใช้ในการปฏิบัติการ หนึ่งปีต่อจากนั้น มีการย้ายไปยังอาคารบริหารใหม่ที่ทันสมัย
ในปี 2011 ระยะแรกของการก่อสร้างใน Maichingen เริ่มต้นขึ้นเพื่อการปรับปรุงอาคารและขยายขีดความสามารถ ระยะที่สองเริ่มต้นในปี 2015 (ห้องการผลิตใหม่)
ใน 2011 HUGO BAUER NACHF GmbH และ Adolf Schnorr GmbH & Co. KG ก็ได้ผนวกรวมกันเป็นองค์กรเดียวในที่สุดและกลายเป็น SCHNORR® GmbH ซึ่งสร้างการทำงานร่วมกันมากขึ้นและการมีตัวตนในตลาดข้อต่อก็เพิ่มขึ้น ในปี 2013 มีการปรับโครงสร้างใหม่สำหรับแผนกยานยนต์และฝ่ายขายสินค้าอุตสาหกรรมเพื่อแก้ไขปัญหา ต่อจากนั้น SCHNORR® GmbH ก็ได้พัฒนาและผลิตชิ้นส่วนที่ถูกลากขึ้นรูปสำหรับอุตสาหกรรมยานยนต์ เป้าหมายเพิ่มเติมของการปรับโครงสร้างใหม่นี้ คือการมุ่งเน้นที่ข้อควรพิจารณาเกี่ยวกับความสามารถหลักในด้านดิสก์สปริงและชิ้นส่วนสปริงที่ถูกปั๊ม
กลุ่มบริษัท SCHNORR® ยังคงแผ่ขยายในระดับสากลต่อไป ได้มีการตั้งบริษัทในเครือพิ่มอีกไในประเทศสเปน, ฝรั่งเศส, เม็กซิโก, จีน (เซี่ยงไฮ้) และเกาหลีใต้ ปัจจุบัน กลุ่มบริษัท SCHNORR® ได้สร้างการมีตัวตนในระดับโลกผ่านบริษัทในเครือของกลุ่มบริษัท นอกจากนี้ ยังมีตัวแทนต่างชาติมากกว่า 25 รายอีกด้วย
ในปี 1995 Hugo Bauer Nachf GmbH กลายมาเป็นสมาชิกของกลุ่มบริษัท SCHNORR® เนื่องจากการร่วมมือภายในกลุ่มบริษัท SCHNORR® การมีตัวตนในตลาดของทั้งสองบริษัทก็ยิ่งแข็งแกร่งขึ้น และใช้ประโยชน์จากการทำงานร่วมกัน มีการออกผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ มากขึ้นเรื่อยๆ เช่น สปริงชนิดพิเศษหรือชิ้นส่วนที่ถูกปั๊มซึ่งทำขึ้นจากเหล็กสปริงก็ได้รักการพัฒนาและผลิตขึ้น โดยเฉพาะสำหรับอุตสาหกรรมยานยนต์
การไปสู่ระดับสากลของ Schnorr ได้รับการส่งเสริมอย่างต่อเนื่อง มีการเฟ้นหาตัวแทนพิเศษทั่วยุโรปและก่อตั้งบริษัทในเครือสองแห่งแรก ได้แก่ SCHNORR® Corporation (ค.ศ.1972) ในสหรัฐฯ และ SCHNORR® Italia S.r.l. (ค.ศ.1980)
ในตอนต้นยุค 1960 แหวนรองกันคลาย SCHNORR® ดั้งเดิมของ Schnorrs เองได้รับการพัฒนาขึ้นและเริ่มต้นเรื่องราวความสำเร็จในฐานะผลิตภัณฑ์ที่มีประสิทธิผลมากขึ้นอย่างมากเมื่อเทียบกับอุปกรณ์ล็อคแบบธรรมดาทั่วไปสำหรับการเชื่อมต่อที่ยึดด้วยโบลท์
Adolf Schnorr เสียชีวิตในปี 1951 เมื่ออายุ 68 ปี เนื่องจากการเติบโตของอสังหาริมทรัพย์ใน Botnang ที่ไปถึงขีดจำกัดสูงสุด จึงได้มีความต้องการอาคารโรงงานใหม่ที่มีสำนักงานคาบเกี่ยวกัน ซึ่งถูกสร้างขึ้นในสถานที่แห่งใหม่ใน Sindelfingen-Maichingen และย้ายเข้าไปในปี 1956
หลังจากนั้นไม่นานในปี 1936 เขาจำเป็นต้องขยายตัวอาคารโดยสร้างไว้บนที่ดินเดิม ในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 อาคารนี้ก็ได้รับความเสียหายอย่างหนักจากการโจมตีทางอากาศ แต่ก็ได้รับการสร้างขึ้นใหม่อย่างรวดเร็วหลังจากสงครามด้วยวิธีแบบง่ายๆ
เนื่องจากการตอบรับที่เป็นบวกในตลาด Adolf Schnorr ก็ได้เริ่มการผลิตดิสก์สปริงแบบเป็นชุดขึ้น อุปสงค์สำหรับ "สปริงของ SCHNORR®" เริ่มมีมากขึ้นจนเขาตัดสินใจที่จะหยุดทำเครื่องมือเพื่อที่จะมุ่งมั่นการผลิตกับดิสก์สปริงเพียงอย่างเดียว
หลังจากที่เขากลับมาจากการเป็นทหาร Adolf Schnorr ก็ขายร้านใน Altbach และซื้อร้านมาทำต่อใน Botnang ใกล้กับ Stuttgart จากนั้น Adolf Schnorr ก็ได้เริ่มค้นคว้ามากขึ้นเรื่อยๆ เกี่ยวกับการทำงานของดิสก์สปริงและนำมาใช้งานสำหรับเครื่องมือที่มีความแม่นยำ ในปี 1933 Adolf Schnorr ฉลองครบรอบบริษัท 25 ปี
ในปี 1908 เมื่ออายุ 25 ปี Adolf Schnorr ได้ก่อตั้งร้านเล็กๆ ใน Altbach ใกล้กับ Esslingen ไปทางตอนใต้ของ Stuttgart เขาสร้างฐานลูกค้ากลุ่มเล็กๆ ในช่วงแรกขึ้นอย่างรวดเร็ว ซึ่งต่างก็ชื่นชมในการสร้างเครื่องมือที่มีความแม่นยำอย่างดี เมื่อเกิดสงครามโลกครั้งที่ 1 การพัฒนานี้ก็หยุดลงแบบกะทันหัน Adolf Schnorr ได้กลายเป็นทหารและต้องปล่อยให้ร้านถูกเช่าซื้อ
